สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ต้นกัลปพฤกษ์

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia bakeriana Craib
วงศ์ : LEGUMINOSAE - CAESALPINIACEAE
ชื่อสามัญ : Wishing Tree, Pink Shower
ชื่ออื่น : กานล์ (เขมร-สุรินทร์) ชัยพฤกษ์ (ภาคเหนือ)วงศ์ : LEGUMINOSAE - CAESALPINIACEAEชื่อสามัญ : Wishing Tree, Pink Showerชื่ออื่น : กานล์ (เขมร-สุรินทร์) ชัยพฤกษ์ (ภาคเหนือ)
ถิ่นกำเนิด : อเมริกาใต้ และตามป่าเบญจพรรณทั่วไป
ต้นไม้ประจำจังหวัด : ขอนแก่น
ลักษณะทั่วไป
กัลปพฤกษ์ หรือบางภูมิภาคของเราจะรู้จักในชื่อพื้นเมืองอื่นๆ อย่างเช่น ต้นกานล์ ต้นเปลือกขม ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ Cassisa bakeriana Craib เป็นต้นไม้ในวงศ์ Leguminosae-Caesalpinioideae จัดอยู่ในกลุ่มไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่มแผ่กว้าง ให้ร่มเงาดี
ความสูงของต้นเฉลี่ยแล้วสูงได้ถึง 15เมตร ทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่แล้ววัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ 7-8 เมตร ลำต้นจะสูงตรงขึ้นไป แล้วไปแผ่พุ่มที่ด้านบน อายุได้ 3 ปีขึ้นไปก็จะเริ่มให้ดอก จะมีบางคนที่จำสลับกับต้นชัยพฤกษ์ที่ลักษณะต้น ดอกเหมือนกัน (ตอนท้ายจะบอกว่าเขามีวิธีสังเกตว่าต้นที่เห็นเป็นกัลปพฤกษ์หรือชัยพฤกษ์มาฝากกัน)
การปลูก
นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนควรปลูกให้ห่างบริเวณบ้านพอสมควรเพราะเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้าน สาขากว้างใหญ่ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1: 2 ผสมดินปลูก
การขยายพันธุ์
การเพาะเมล็ด การตอน วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด
โรคและศัตรู
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อโรคพอสมควร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กัลปพฤกษ์เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกนอกสีเทาลำต้นมีรอยเป็นเส้นเล็กน้อยแตกกิ่งก้านพุ่งสู่ด้านบนไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบเป็นแผงมีใบย่อยประมาณ 5-6 คู่ออกเรียงตรงกันตามก้านใบเป็นคู่ๆใบบางเรียบปลายใบแหลม ขนาดของใบกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร
ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้านมีกลิ่นหอมมีสีชมพูแกมขาวดอกบานจะมีความกว้างประมาณ23เซนติเมตรมีกลีบดอก5กลีบตรงกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองผลเป็นฝักกลม ยาว มีสีดำ เมื่อแก่เนื้อในฝักมีสีขาวกั้นเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะมีเมล็ดเรียงอยู่ภายใน ฝักหนึ่งยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร มีลักษณะใบ เป็นพุ่มใบแบนกว้าง
ใบ
ใบสีเขียวเข้ม มีขน รูปใบคล้ายขนนก ก่อนออกดอกจะทิ้งใบ เหลือกิ่งก้านกับดอก ก็สวยไปอีกแบบ ดอกจะเด่นมาก ไม่มีใบมาแย่งซีน ใบจะเริ่มร่วงตั้งแต่มกราคมยาวไปจนถึงมีนาคม-เมษายน หลังจากนั้นก็จะเริ่มออกดอกให้เห็น

ดอก
ดอกสีชมพู ไม่มีกลิ่น ออกกระจายอยู่ตามกิ่งแซมไปกับใบอ่อน ดอกจะออกช่วง กุมภาพันธ์-เมษายน ถ้าเริ่มเห็นว่ากัลปพฤกษ์เริ่มทิ้งใบก็เตรียมตัวได้เลยว่า ใกล้จะออกดอกแล้ว จากนั้นก็จะเริ่มผลิดอก และทยอยบานไปอีก 3-4สัปดาห์ เมื่อแรกบานดอกจะเป็นสีชมพูจากนั้นสีชมพูจะเข้มขึ้นก่อนที่จะจางเป็นสีขาวก่อนดอกจะร่วง

ผล
เป็นฝักหักข้อ รูปทรงกระบอก ยาว 20-60 ซม. ฝักแก่สีดำ มีเมล็ดมาก
ระยะเวลาออกดอกเดือนกุมภาพันธุ์-เมษายน
ประโยชน์
- เนื้อในฝักเป็นยาระบายอ่อนๆ เปลือกฝักและเมล็ดทำให้อาเจียน ลดไข้
- ปลูกเป็นไม้ประดับ
การดูแล
- แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
- น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อยถึงปานกลาง ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง
- ดิน ชอบดินร่วนซุย ดินปนทราย
- ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1.2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้ง
ข้อดี
- เหมาะที่จะปลูกให้ร่มเงาใต้ต้น ในที่โล่ง หรือริมถนน
- ดอกสวย เวลาออกดอก จะออกสะพรั่งเต็มต้น เด่นสะดุดตา
- ดอกเปลี่ยนสีได้จาก ชมพูอ่อนตอนเริ่มบาน เป็นชมพูเข้มและเริ่มจางเป็นสีขาวเมื่อใกล้โรย น่าจะถูกใจคนที่ชอบดอกไม้สีชมพู
ข้อเสีย
- ก่อนออกดอก ต้นจะทิ้งใบ ใบร่วงทั้งต้น แต่ก็จะเป็นแค่เพียงช่วงดอกดอกเท่านั้น
- มีปัญหาเรื่องหนอนในฝัก
วีดีโอ
อ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C
http://www.maipradabonline.com/maimongkol/kunrapapouk.htm
http://xn--12ca2dqls6bf4b9d1nrb.blogspot.com/2012/06/blog-post.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น